[ad_1]
“ฟาบริซิโอ อานดราเด” เด็กซ่าแดนแซมบาบราซิล เจ้าบัลลังก์ ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต มั่นใจในประสบการณ์ผ่านสังเวียนคิกบ็อกซิ่งที่มีเหนือกว่า “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” พร้อมโค่นราชันมวยไทยเมืองผู้ดี รวบตึงเส้นที่สองมาคาดเอว
“วันเดอร์บอย” ฟาบริซิโอ อานดราเด แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ชาวบราซิล มีคิวปะทะเดือด “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลกมวยไทยรุ่นเดียวกัน จากเกาะอังกฤษ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ที่ว่างอยู่ ในศึก ONE Fight Night 15 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 7 ต.ค. 66
“ก่อนจะทุ่มเทให้กับ MMA อย่างเต็มตัว ผมมีสัญญาคิกบ็อกซิ่งมาก่อน ผมสนใจเรื่องนี้มาแต่แรกแล้ว แต่มันยังไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมมัวแต่ไล่ตามความสำเร็จในอาชีพนักกีฬา MMA ของผม แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว การเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่งคือสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในอาชีพของผม”
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นนักปล้ำรัดจับล็อกในสาย MMA แต่จากชัยชนะ 7 ไฟต์ ที่ส่งให้ “ฟาบริซิโอ” สามารถไต่บัลลังก์ขึ้นเป็นราชันรุ่นแบนตัมเวตนั้น เป็นการปิดบัญชีคู่ชกในเกมยืนถึง 4 ไฟต์ ถือเป็นเครื่องการันตีชั้นดีว่า ศาสตร์การออกอาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก ของเขาไม่เป็นสองรองใคร มิหนำซ้ำ “ฟาบริซิโอ” ยังมองไกลไปถึงขั้นรวบเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทยเป็นเส้นที่สามอีกด้วย 
“ผมมีโอกาสที่จะทำสิ่งที่ยังไม่มีใครทำได้ นั่นคือการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนแรกที่ครองแชมป์โลก MMA และคิกบ็อกซิ่ง มันคือแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมในไฟต์นี้ และแน่นอน ผมก็มองไปถึงเข็มขัดมวยไทยด้วย แต่ผมยังไม่มีแผนสำหรับเรื่องนี้ ผมกำลังก้าวไปทีละขั้นๆ ตอนนี้ผมขอให้ความสำคัญกับเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามวยไทยก็เป็นไปได้ในอนาคต”
สำหรับ “ฟาบริซิโอ” ไม่เคยด้อยค่าในฝีมือของ “แฮ็กเกอร์ตี” เพราะเขารู้ดีว่าราชันเนื้อหอมรายนี้คือหนึ่งในนักชกระดับหัวแถวของโลกที่โค่นตำนานมวยไทยมาแล้วหลายราย แต่ถึงกระนั้นเขายังมองว่า “แฮ็กเกอร์ตี” ก็มีจุดอ่อนที่รอให้เขาจัดการ
นอกจากนั้น กติกาคิกบ็อกซิ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาที่มีประสบการณ์การชกมาหลายครั้ง ต่างจาก “แฮ็กเกอร์ตี” ที่เพิ่งประเดิมกติกานี้เป็นครั้งแรก ซึ่ง “ฟาบริซิโอ” เชื่อว่านี่เป็นข้อได้เปรียบที่จะช่วยให้เขาคว้าเข็มขัด ONE เส้นที่สองมาครองสำเร็จ
“แฮ็กเกอร์ตี เป็นนักกีฬาที่มีเทคนิคแพรวพราว เขาฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่ชกได้เก่งมาก เขาอ่านเกมได้ดี จุดแข็งของเขาคือศอก แต่บังเอิญว่าไฟต์นี้เขาใช้ศอกไม่ได้ ส่วนจุดอ่อนของเขาก็คือแรงปะทะ ผมตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากจุดนี้เพื่อคว้าความได้เปรียบในการต่อสู้ครับ”
“ถึงผมจะไม่ได้ลงแข่งในกติกานี้มาพักใหญ่แล้ว แต่ผมก็ไม่เคยละเลยการฝึกฝนอาวุธยืนของผมที่ทรงพลังกว่าเขา และไฟต์นี้ผมจะบู๊ดุดันให้ได้มากกว่าเขา นั่นจะทำให้ผมได้เปรียบ ผมจะน็อกเขาให้ดูครับ”
แฟนๆสามารถจองบัตรเข้าชม ศึก ONE Fight Night 15 ในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
แหล่งที่มา
[ad_2]